UML กับ ประวัติความเป็นมา
UML มีชื่อเต็มว่า Unified Modeling Language
ภาษา ที่ใช้สำหรับอธิบาย โมเดล โดยใช้ Diagram แผนภาพ แสดงความหมายและความสัมพันธ์ เพื่อใช้ในการ แก้ไขปัญหาการดำเนินงาน โครงการซอฟ์แวร์ โดยจะมี View หรือมุมมองของปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละ Model และเมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็จะสามารถวิเคราะห์ และออกแบบ เพื่อนำไปสร้าง Model ตัวต่อๆ ไป
ประวัติความเป็นมาของ UML ( Unified Modeling Language )
UML ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ในแวดวงอุตสาหกรรม ซอฟแวร์ เมื่อปี คศ.1994 โดย Jim Rumbaugh และทีมวิจัย จาก บริษัท General Electric พัฒนาแนวคิดเรื่อง Object Modeling Technique (OMT) และ ไอวาร์ จาคอบสัน (Ivar Jacobson ) จากบริษัท Ericsson ได้นำเสนอแนวความคิดในเรื่องของ Use case เป็นคนแรก ซึ่งช่วงนั้นมีระเบียบวิธีที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันดังกล่าวเกิดขึ้นมากมาย และในขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แนวความคิดพื้นฐาน ที่เหมือนกันถูกแสดงด้วยสัญลักษณ์ที่ต่างกัน ซึ่งทาให้เกิดความสับสนในการสื่อความหมาย องค์การ OMG พยายามที่จะสร้าง มาตรฐานขึ้นมา เกรดี บูช (Grady Booch) พยายามประสานงานอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งก็ไม่ประสบผลสาเร็จแต่อย่างใด
ต่อมามีการประชุม OOPSLA ในปี 1994 โดยมีการประกาศว่า Jim Rumbuagh ได้ร่วมกับ Grady Booch ที่ Rational Software เพื่อร่วมกันพัฒนาระเบียบวิธีของที่ต่างคนต่างคิดขึ้นด้วยกัน ในการประชุม OOPSLA
ปี คศ.1997 โดย บริษัท Rational Software Cooperation โดยได้ทำการรวบรวมแนวคามคิด การพัฒนา ซอฟแวร์ โดยมีแนวความคิดที่ว่า การพัฒนาซอฟแวร์ เป็นงานศิลปะประเภทหนึ่ง ที่มีความละเอียดอ่อน ต้องการความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่ การวิเคราะห์ข้อมูลจนกระทั่งการพัฒนาขึ้นมาจนสามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยใช้ UML เป็นเครื่องมือในการพัฒนา ในรูปแบบของ Object กลุ่มบริษัท ที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา ที่ใหญ่ ได้แก่ Microsoft , IBM , Compaq , Oracle ซึ่งล้วนแต่เป็น บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ ในแวดวง อุตสาหกรรมซอฟแวร์
UML ภาษามาตรฐานสาหรับการจำลองระบบสารสนเทศ ด้วยภาพการวาดแบบจาลองเพื่อจุดประสงค์ 4 ประการ
- จำลองด้วยภาพ (visualizing)
- แสดงข้อกาหนด (specifying)
- ช่วยสร้างระบบ (constructing)
- ช่วยบันทึก (documenting)
กลไกของ UML
ในการวิเคราะห์ และออกแบบ ระบบ โดยใช้ UML เป็นเครื่องมือ ในการดำเนินงานโครงการ มีกลไก ของ Model มาตราฐาน
( Standard Model ) เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการวิเคราะห์และออกแบบ ดังนี้
1. Use case Diagram แสดงการใช้งานระบบ จากมุมมองของ User
2. Sequence Diagram แสดงลำดับขั้นตอน การทำงานภายใน ของ Use case Diagram
3. Class Diagram แสดงถึง Class และความสัมพันธ์ ของข้อมูล และ กิจกรรมที่มีผลกับข้อมูลในแต่ละ Class
4. Activity Diagram แสดงถึง กระแส การไหล ของการทำงานในระบบ ( Work Flow )
5. Collaboration Diagram แสดงถึง การติดต่อสื่อสาร และความสัมพันธ์ ระหว่าง Object
6. Component Diagram แสดงถึง โครงสร้างทางกายภาพของ Component ต่างๆ ในระบบ
7. Deployment Diagram แสดงถึง สถาปัตยกรรมของระบบ Hardware/Software
8. Object Diagram แสดงถึงความสัมพันธ์ และ Instance ของ Class และ Object
9. State Diagram แสดงถึง สถานภาพ และ พฤติกรรม ของ Object
ภาษา ที่ใช้สำหรับอธิบาย โมเดล โดยใช้ Diagram แผนภาพ แสดงความหมายและความสัมพันธ์ เพื่อใช้ในการ แก้ไขปัญหาการดำเนินงาน โครงการซอฟ์แวร์ โดยจะมี View หรือมุมมองของปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละ Model และเมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็จะสามารถวิเคราะห์ และออกแบบ เพื่อนำไปสร้าง Model ตัวต่อๆ ไป
ประวัติความเป็นมาของ UML ( Unified Modeling Language )
UML ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ในแวดวงอุตสาหกรรม ซอฟแวร์ เมื่อปี คศ.1994 โดย Jim Rumbaugh และทีมวิจัย จาก บริษัท General Electric พัฒนาแนวคิดเรื่อง Object Modeling Technique (OMT) และ ไอวาร์ จาคอบสัน (Ivar Jacobson ) จากบริษัท Ericsson ได้นำเสนอแนวความคิดในเรื่องของ Use case เป็นคนแรก ซึ่งช่วงนั้นมีระเบียบวิธีที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันดังกล่าวเกิดขึ้นมากมาย และในขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แนวความคิดพื้นฐาน ที่เหมือนกันถูกแสดงด้วยสัญลักษณ์ที่ต่างกัน ซึ่งทาให้เกิดความสับสนในการสื่อความหมาย องค์การ OMG พยายามที่จะสร้าง มาตรฐานขึ้นมา เกรดี บูช (Grady Booch) พยายามประสานงานอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งก็ไม่ประสบผลสาเร็จแต่อย่างใด
ต่อมามีการประชุม OOPSLA ในปี 1994 โดยมีการประกาศว่า Jim Rumbuagh ได้ร่วมกับ Grady Booch ที่ Rational Software เพื่อร่วมกันพัฒนาระเบียบวิธีของที่ต่างคนต่างคิดขึ้นด้วยกัน ในการประชุม OOPSLA
ปี คศ.1997 โดย บริษัท Rational Software Cooperation โดยได้ทำการรวบรวมแนวคามคิด การพัฒนา ซอฟแวร์ โดยมีแนวความคิดที่ว่า การพัฒนาซอฟแวร์ เป็นงานศิลปะประเภทหนึ่ง ที่มีความละเอียดอ่อน ต้องการความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่ การวิเคราะห์ข้อมูลจนกระทั่งการพัฒนาขึ้นมาจนสามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยใช้ UML เป็นเครื่องมือในการพัฒนา ในรูปแบบของ Object กลุ่มบริษัท ที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา ที่ใหญ่ ได้แก่ Microsoft , IBM , Compaq , Oracle ซึ่งล้วนแต่เป็น บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ ในแวดวง อุตสาหกรรมซอฟแวร์
UML ภาษามาตรฐานสาหรับการจำลองระบบสารสนเทศ ด้วยภาพการวาดแบบจาลองเพื่อจุดประสงค์ 4 ประการ
- จำลองด้วยภาพ (visualizing)
- แสดงข้อกาหนด (specifying)
- ช่วยสร้างระบบ (constructing)
- ช่วยบันทึก (documenting)
กลไกของ UML
ในการวิเคราะห์ และออกแบบ ระบบ โดยใช้ UML เป็นเครื่องมือ ในการดำเนินงานโครงการ มีกลไก ของ Model มาตราฐาน
( Standard Model ) เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการวิเคราะห์และออกแบบ ดังนี้
1. Use case Diagram แสดงการใช้งานระบบ จากมุมมองของ User
2. Sequence Diagram แสดงลำดับขั้นตอน การทำงานภายใน ของ Use case Diagram
3. Class Diagram แสดงถึง Class และความสัมพันธ์ ของข้อมูล และ กิจกรรมที่มีผลกับข้อมูลในแต่ละ Class
4. Activity Diagram แสดงถึง กระแส การไหล ของการทำงานในระบบ ( Work Flow )
5. Collaboration Diagram แสดงถึง การติดต่อสื่อสาร และความสัมพันธ์ ระหว่าง Object
6. Component Diagram แสดงถึง โครงสร้างทางกายภาพของ Component ต่างๆ ในระบบ
7. Deployment Diagram แสดงถึง สถาปัตยกรรมของระบบ Hardware/Software
8. Object Diagram แสดงถึงความสัมพันธ์ และ Instance ของ Class และ Object
9. State Diagram แสดงถึง สถานภาพ และ พฤติกรรม ของ Object